ธปท.ออกตรวจแบงก์เงินกู้รถ สกัดเงินทอนซ้ำรอยสินเชื่อบ้าน
เศรษฐกิจ
“ธปท.ให้ความสนใจติดตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนมาโดยตลอด และได้ออกมาตรการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะพบการเก็งกำไรมาก และยังให้เงินทอนเงินเหลือแก่ลูกค้า โดยที่เอาเงินไปใช้ทำอะไรก็ได้ ซึ่งหนี้ครัวเรือนจะมีผลทั้งประชาชนถ้าหากมีหนี้สูง แต่อาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ต้องใช้เงิน เช่น ต้องเข้าโรงพยาบาล หรือต้องออกจากงาน ทำให้จะกระทบกับการผ่อนชำระค่างวดของตนเองและรายจ่ายของตนเองได้ ซึ่งอาจจะไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่มเติมได้ รวมทั้งจะยังกระทบต่อเนื่องไปจนถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้หากไม่ใช้หนี้คืน ทำให้กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และอาจต้องพึ่งสวัสดิการเป็นภาระงบประมาณของภาครัฐต่อไป”
นอกจากนี้ยังเสวนาพิเศษ หัวข้อ จับชีพจรเศรษฐกิจโลก เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวได้ดีโดยธปท.คาดว่าจีดีพีไทยปีนี้เติบโต 3.8% แม้จะมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกชะลอ การส่งออกกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน แต่โดยรวมมองว่าไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยว หากไม่มีความขัดแย้ง หรือการประท้วงด้านการเมือง จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันการลงทุนเอกชนจะเป็นอีกเครื่องยนต์หนึ่งที่ขยายตัวดี ตามโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งเชื่อว่าจะมีความต่อเนื่องด้านนโยบายเพราะถูกบรรจุเป็นกฎหมายแล้ว ทุกพรรคการเมืองทุกรัฐบาลก็จะสนับสนุนต่อไป แต่ไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจดี รองรับความผันผวนจากทั้งในและต่างประเทศได้ โดยต้องติดตามเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีน และอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ซึ่งอาจทำให้ตลาดเงิน ตลาดทุนผันผวนได้