ข่าวปัจจัยลบต่างประเทศฉุดเงินบาทสัปดาห์นี้ผันผวน - kachon.com

รายงานข่าวจากกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แจ้งว่า  ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-31.85  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ   โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.8 พันล้านบาท  และพันธบัตรไทยมูลค่า 4.2 พันล้านบาท  โดยในไตรมาส 1/62 เงินบาทแข็งค่า 2.7% เทียบจากสิ้นปี 61 

ทั้งนี้ตลาดจะติดตามความคืบหน้าของการเจรจราเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หลายรายการ อาทิ ยอดค้าปลีก ดัชนีภาคบริการ และการจ้างงานนอกภาคเกษตร ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะหลังออกมาไร้ทิศทางและเพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มากขึ้น โดยล่าสุดที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวให้ความเห็นว่าเฟดควรลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ทันที นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาโค้งสุดท้ายของทางออก Brexit ขณะที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่าสหราชอาณาจักรอาจต้องออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลงหลังเส้นตายในวันที่ 12 เมษายน หลังจากรัฐสภาสหราชอาณาจักรคัดค้านข้อเสนอ Brexit ของนายกฯเมย์เป็นครั้งที่ 3 ภาวะเช่นนี้จะยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนและเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงินสำหรับช่วงต้นไตรมาสสอง 
  
สำหรับปัจจัยในประเทศ ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมี.ค.สูงเกินคาด  ส่วนธปท.ระบุว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังไม่ปิดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ตามศักยภาพและความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินยังมีอยู่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยเนื่องจากเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ในทางกลับกัน ธปท.ระบุว่าโอกาสปรับลดดอกเบี้ยเป็นไปได้น้อยถ้าไม่เกิดช็อกต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ท่าทีเช่นนี้มองว่า กนง.มีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ตลอดทั้งปีนี้  ส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนก.พ.เติบโตต่อเนื่องจากแรงส่งของการบริโภคภาคเอกชน แต่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลงตามการลงทุนในหมวดก่อสร้าง ด้านภาคการท่องเที่ยวทรงตัวเทียบปีต่อปี ขณะที่การส่งออกยังหดตัวต่อเนื่องตามตลาดโลกที่ชะลอลงจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า