ข่าวปลัดพาณิชย์คุมเข้มรถกระทรวงห้ามมลพิษเกินค่ามาตรฐาน - kachon.com

ปลัดพาณิชย์คุมเข้มรถกระทรวงห้ามมลพิษเกินค่ามาตรฐาน
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า  นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการด่วน ให้หน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ เร่งสำรวจสภาพรถราชการทุกประเภท ประกอบด้วย รถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง และรถรับรองประจำจังหวัด  เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษทางอากาศและระดับเสียงจากท่อไอเสียที่เกินจากระดับมาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม2.5 กำลังสร้างปัญหาด้านสุขภาพอนามัยและการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก 
 
ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหา คือ การเผาไหม้ที่สันดาปไม่สมบูรณ์และควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ที่เกินค่ามาตรฐาน ประกอบกับเพื่อรณรงค์ให้หน่วยงานราชการและบุคลากรภาครัฐตระหนักถึงความสำคัญของการลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงและงบประมาณของประเทศอีกด้วย

 

“ ปลัดพาณิชย์ ให้เร่งประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเข้าตรวจวัดมลพิษทางอากาศและระดับเสียงจากรถราชการ โดยจะเริ่มทยอยตรวจรถราชการฯ แต่ละหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการตรวจสภาพรถราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลการตรวจสอบรถราชการของกรมฯ จำนวน 22 คัน ในเบื้องต้น พบว่า รถราชการ 20 คัน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและระดับเสียงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และ 2 คันมีค่าเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหยุดการใช้รถทันที และเร่งดำเนินการส่งรถทั้ง 2 คัน เข้าซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติและไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและระดับเสียงที่เกินมาตรฐาน”
          
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศ/ประหยัดงบประมาณของประเทศ โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมาตรการประหยัดพลังงานนี้ กรมฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรับผิดชอบการลดการใช้พลังงานขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อกำกับดูแลให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย มาตรการลดการใช้ไฟฟ้า และ  มาตรการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมาตรการฯ ดังกล่าว หากประสบผลสำเร็จ จะช่วยให้กรมฯ สามารถประหยัดงบประมาณได้ประมาณร้อยละ 5 ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล