พาณิชย์ยกระดับราคาปาล์มช่วยชาวสวน
เศรษฐกิจ
ขณะที่กฟผ. จะเร่งการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเดิมที่ใช้ 1,000 ตันต่อวัน เป็น 1,500 ตันต่อวัน และคาดว่าจะใช้น้ำมันที่รับซื้อไว้หมดสิ้นภายในวันที่ 5 มิ.ย.62 การใช้น้ำมันปาล์มดิบจำนวนดังกล่าวเป็นการดึงน้ำมันปาล์มส่วนเกินออกนอกระบบตลาด ซึ่งจะทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ 370,000 ตัน ลดลงเหลือ 210,000 ตัน หลังการส่งมอบเสร็จสิ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ดีเซล โดยกระทรวงพลังงานได้ประกาศรับรองมาตรฐาน B20 ว่าใช้ได้กับรถบรรทุก รถบัส รถเพื่อการเกษตรเกือบทุกรุ่น ส่วนรถบรรทุกเล็กบางรุ่นอาจต้องมีการปรับแต่งเครื่องเพื่อให้รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ และเพื่อกระตุ้นให้มีการใช้น้ำมัน B20 มากขึ้น รัฐบาลได้ลดราคาน้ำมันไบโอดีเซลให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซลปกติ ลิตรละ 5 บาท พร้อมทั้งลดภาษีรถยนต์ที่ใช้ไบโอดีเซลลง 0.5-1% ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการใช้รถยนต์ดีเซลมีค่าใช้จ่ายในการจัดหารถและค่าเติมน้ำมันถูกลง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ขอความร่วมมือผู้จำหน่ายน้ำมัน 5 ราย ประกอบด้วย ปตท. บางจาก พีที ซัสโก้ และเชลล์ ให้เร่งติดตั้งหัวจ่ายเพื่อจำหน่าย B20 ให้กระจายอย่างทั่วถึงทั่วประเทศโดยเร็ว ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากเอกชนทั้ง 5 รายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปาล์มสำคัญ มีปั้มน้ำมันติดตั้ง B20 แล้ว 18 สถานี รองรับ B20 ได้มากกว่าวันละ 200 ตัน ซึ่งหากมีการกระจายการติดตั้งหัวจ่าย B20 ทั่วประเทศ จะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้ถึงวันละ 20 ล้านลิตร หรือปีละไม่ต่ำกว่า 1,440,000 ตัน
"การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่องจะช่วยสร้างตลาดรองรับให้กับปาล์มน้ำมันของชาวสวน และจะสามารถช่วยดึงราคาผลปาล์มให้สูงขึ้นได้"