กระแสเกือบดีวันแรก"รถเมล์510" ไม่รับเงินสด
เศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่เกาะพหลโยธิน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทำพิธีเปิดตัวโครงการนำร่องรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสดบนรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC ด้วยการแตะ
นายประยูร เปิดเผยว่า วันนี้ทดลองนำร่องรถเมล์สาย 510 ไม่รับเงินสดได้ผลตอบรับดีจากผู้โดยสาร เพราะมีผู้โดยสารใช้บัตรเติมเงินชำระค่าโดยสารแล้ว 4,000 คน จากผู้โดยสารที่ใช้บริการสาย 510 จำนวน 38 คัน มีประมาณ 10,000 คนต่อวัน และมีผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์ ขสมก. 1.2 ล้านคนต่อวัน ทั้งนี้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผู้โดยสารที่ยังไม่พร้อม ขสมก. อนุโลมให้จ่ายค่าโดยสารด้วยเงินสดได้ เพื่อให้ผู้โดยสรรเตรียมพร้อมและเรียนรู้ระบบ จากนั้นพยายามให้ผู้โดยสารจ่ายค่าโดยสารด้วยบัตรฯ 100% อย่างไรก็ตาม ขสมก. จะประเมินผลทุกสัปดาห์ เพื่อนำมาปรับแก้ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร รวมทั้งผลการทดลอง 2 เดือนสิ้นสุดจะนำเสนอผลการทดลองให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ทราบ ประมาณเดือน ก.ค. 62 หากผลการทดลองประสบความสำเร็จจะขยายผลนำไปใช้กับสายอื่นๆ ต่อไป เพราะอนาคต ขสมก. จะไม่มีพนักงานเก็บค่าโดยสาร และต้องเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว
นายประยูร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีผู้โดยสารขาจรนั้นสามารถขึ้นมาซื้อบัตรฯ และค่าโดยสารเหลือในบัตรฯ สามารถนำไปขอคืนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา การซื้อบัตรฯ นั้นสามารถซื้อได้ที่พนักงานเก็บค่าโดยสาร 510 ทุกคัน และจุดป้ายรถเมล์ ใหญ่ๆ ตามแนวเส้นทางที่สาย 510 ให้บริการรวม 4 จุด คือ ป้ายรถเมล์หน้าห้างเมเจอร์ รังสิต, หน้าสนามบินดอนเมือง, เกาะพหลโยธิน อนุสาวรีย์ชัยฯ และ บีทีเอสจตุจักร ซึ่งมีโปรโมชั่น ซื้อบัตรฯ 40 บาท จะมีมูลค่าบัตรฯ 50 บาท สามารถซื้อวันนี้ถึงวันที่ 30 เม.ย. นี้ ส่วนการเติมเงินบัตรมี 3 วิธี คือ เติมเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งของทุกธนาคาร เติมเงินผ่านตู้เอทีเอ็มของทุกธนาคาร และเติมเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ซึ่งถ้าเติมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยฯ ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จะได้รับมูลค่าภายในบัตรเพิ่มอีก 50 บาท จำกัดจำนวน 2,000 ใบ ทั้งนี้ไม่กำหนดขั้นต่ำวงเงินในการเติมเงิน และเติมเงินได้สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
นายประยูร กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบบัตรนั้นเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ช้าก็เร็วประเทศไทยก็ต้องใช้ ดังนั้นจึงอยากชี้แจงให้ประชาชนนั้นเปลี่ยนพฤติกรรมอย่าติดอยู่กับแค่การใข้เงินสด เพราะเทคโนโลยีใหม่สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารได้จริง ทั้งการลดเวลารอทอนเงิน เพิ่มช่องทางชำระ ลดต้นทุน ลดพนักงานรถเมล์และต่อยอดไปสู่การเดินทางระบบขนส่งสาธารณะด้วยบัตรเพียงใบเดียว ตลอดจนต่อยอดไปยังบริการอื่นๆในอนาคตเป็นต้น
ด้านนางวันวิสาข์ คชมิตร อายุ 52 ปี อาชีพพนักงานบริษัท กล่าวว่า ใช้รถเมล์เดินทางประจำ แต่ไม่ค่อยได้ใช้สาย 510 แค่วันนี้มีความจำเป็นต้องใช้บริการสาย 510 เพื่อนั่งจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปลงหลักสี่ และเป็นวันแรกที่ต้องใช้ระบบจ่ายค่าโดยสารโดยไร้เงิดสด ซึ่งยอมรับว่างงมาก ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ยังไม่เข้าใจกับระบบการให้บริการแบบนี้ และตนเหมือนเป็นผู้โดยสารขาจรขึ้นมาต้องบังคับให้ซื้อบัตรเติมเงิน 40 บาท เพราะไม่รู้อีกว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้รถเมล์สายนี้อีก ซึ่งไม่ทราบว่าจำนวนเงินที่เหลือในบัตรฯ ต้องถูกไปไว้ไหน ทั้งนี้ต้องการแนะนำให้ ขสมก. ช่วงแรกยังต้องให้ผู้โดยสารจ่ายค่าโดยสารด้วยเงินสดก่อน เพื่อให้ผู้โดยสารได้มีทางเลือก