บาทไทยแข็งค่ารั้งอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย
เศรษฐกิจ

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาแจ้งว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าในระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย.นี้ คาดว่าแตะระดับ 31.60-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ติดตามเรื่องสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีน เบร็กซิท ภาวะเศรษฐกิจโลกหลังจากธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจและผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการประชุมของธนาคารกลางโลก(เวิล์ดแบงก์) รวมถึงปัจจัยการเมืองภายในประเทศ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 61 จนถึง 12 เม.ย.พบว่า รูเปียห์-อินโดนีเซียแข็งสุดที่ 3.36% รองลงมาคือหยวน-จีน 3.52% บาท-ไทย 2.45% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.56% รูปี-อินเดีย 1.15% ดอลลาร์-สิงคโปร์แข็ง 0.90% ส่วนสกุลเงินที่อ่อนค่า เช่น วอน-เกาหลีใต้ 2.07% เยน-ญี่ปุ่น 1.47% และดอลลาร์-ไต้หวัน 0.45% อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวค่าเงินมีความผันผวนผู้ประกอบการต้องประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและใช้สกุลเงินท้องถิ่นทำการค้าขาย
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 61 จนถึง 12 เม.ย.พบว่า รูเปียห์-อินโดนีเซียแข็งสุดที่ 3.36% รองลงมาคือหยวน-จีน 3.52% บาท-ไทย 2.45% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.56% รูปี-อินเดีย 1.15% ดอลลาร์-สิงคโปร์แข็ง 0.90% ส่วนสกุลเงินที่อ่อนค่า เช่น วอน-เกาหลีใต้ 2.07% เยน-ญี่ปุ่น 1.47% และดอลลาร์-ไต้หวัน 0.45% อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวค่าเงินมีความผันผวนผู้ประกอบการต้องประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและใช้สกุลเงินท้องถิ่นทำการค้าขาย