ข่าวแบงก์กรุงศรีฯปักธงเป้าสินเชื่อปีหมู 6-8% - kachon.com

แบงก์กรุงศรีฯปักธงเป้าสินเชื่อปีหมู 6-8%
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เปิดเผยว่า  ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/ 62  กำไรสุทธิรายไตรมาส สูงสุดที่ 12,700 ล้านบาท เติบโตมากกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 1/ 61 โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ภายหลังการบันทึกกำไรหลังหักภาษีจำนวน 6,700 ล้านบาทจากการขายหุ้นในบริษัทเงินติดล้อให้กับพันธมิตร ถ้าหากไม่รวมกำไรจากการขายเงินติดล้อและค่าใช้จ่ายการชดเชยเกษียณอายุตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ กรุงศรียังคงมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% 
 
ทั้งนี้ธนาคารมีการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่ 2.3% และเงินรับฝากเพิ่มขึ้น 2.7% พร้อมทั้งการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งโดยรวมของธนาคารและความสามารถในการบริหารพอร์ตที่สมดุล นอกจากนี้คุณภาพของสินทรัพย์ยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 1.99% เทียบกับระดับ 2.08% ณ สิ้นปี  6
 
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีนี้จากการที่เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่การชะลอตัวตามวัฏจักร ธนาคารยังคงระมัดระวังปัจจัยต่างประเทศและผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย แม้ว่าการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงและอุปสงค์ต่างประเทศลดลง ธนาคารยังมีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังโดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 3.8% สำหรับแนวโน้มต่อไป ธนาคารคาดว่าการใช้จ่ายในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นจากปัจจัยด้านรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นและมาตรการด้านงบประมาณที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการเร่งเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่ 6-8%   โดยยังคงมุ่งเน้นด้านการเสริมความแข็งแกร่งของดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
  
ณ วันที่ 31 มี.ค.62 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยและเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.71ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.47 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.24 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 229.8 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า14.91% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.39%