อานิสงส์เฟดตรึงดอกเบี้ย หนุนKT-CHINAโต22%
เศรษฐกิจ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณพักการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆทั่วโลก ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล แผนของMSCI ที่จะเพิ่มน้ำหนัก A-Shares ในดัชนี MSCI Emerging Markets 3 รอบในปีนี้ และความคาดหวังสงครามการค้าจะคลี่คลาย โดยนับตั้งแต่ต้นปี - 17 เม.ย. ดัชนีหุ้นจีน CSI 300 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.76% เทียบกับMSCI ACWI เพิ่มขึ้น 14.57% และ MSCI EM เพิ่มขึ้น 13.52%
ทั้งนี้ บลจ. กรุงไทย มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีน ไว้รองรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นจีน จำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-China –A ) กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-China RMF ) และกองทุนเปิดดับเบิ้ลยู ไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ โดยกองทุน KT-China-A และกองทุน KT-China RMF เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ BGF China Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 80 %ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
นอกจากนี้มีการบริหารแบบเชิงรุก (actively managed) โดย BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลก โดยกองทุนมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด และจะลงทุนอย่างน้อย 70% ของสินทรัพย์รวมของกองทุนในหุ้นของบริษัทที่มีภูมิลำเนาหรือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศจีน ขณะที่กองทุนรวมหลักได้รับการจัดอันดับระดับ 4 ดาว จาก Morningstar ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ.62
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 5 เม.ย. 62 กองทุน KT-China-A ผลตอบแทน (2 ม.ค.- 5 ก.พ.62 ) อยู่ที่ 22.27% 6 เดือนอยู่ที่ 12.57% และ 1 ปี อยู่ที่ -5.74% ส่วนกองทุน KT-China RMF อยู่ที่ 21.81% 6 เดือนอยู่ที่ 12.20% และ 1 ปี อยู่ที่ -5.94% เมื่อเทียบกับ Benchmark อยู่ที่ 19.69 % 6 เดือนอยู่ที่ 10.34% และ1 ปี อยู่ที่ 0.94%
ส่วนกองทุนเปิดดับเบิลยู ไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (CHINA) เป็นกองทุนประเภท ETF ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ W.I.S.E-CSI 300 China Tracker (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทั้งนี้ กองทุนหลักบริหารแบบเชิงรับ(passively managed) มุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี CSI 300 ซึ่งประกอบด้วยหุ้น A-Shares ขนาดใหญ่สภาพคล่องสูง 300 ตัวในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น โดยผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 5 เม.ย.62 อยู่ที่ 35.27% 6 เดือนอยู่ที่ 20.56% และ1ปี อยู่ที่ 1.32% ขณะที่ Benchmark YTD อยู่ที่ 35.27% 6 เดือนอยู่ที่ 17.56% และ 1 ปี อยู่ที่ 2.83 % อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นจีน อาจจะหาจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาปรับตัวลง และเชื่อว่าในระยะยาวตลาดหุ้นจีนยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้