พิษสงครามการค้า-ศก.โลกหด ฉุดส่งออกมี.ค.ลบ4.8%
เศรษฐกิจ
สำหรับสาเหตุที่ปรับตัวลงมาจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ แม้ว่าเริ่มสัญญาณความชัดเจนมากขึ้น และรวมทั้งจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ อาทิ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าในสหรัฐฯ และการเมืองในยุโรป รวมถึงความเสี่ยงของภาคสินเชื่อและธนาคารของจีน นอกจากนี้ ราคาส่งออกยังถูกกดดันจากราคาน้ำมัน ที่ยังขยายตัวในระดับต่ำ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ที่ WTO และ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ และอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบสินค้าเกษตรบางรายการ ขณะที่สินค้าส่งออกที่ติดลบมากได้แก่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็น 16% และเป็นสินค้าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ลดลง 30% ของมูลค่าการส่งออก ขณะที่สินค้ารถยนต์ ขยายตัว 5.6% รวมทั้งสินค้าอาหาร ผักผลไม้มีการส่งออกขยายตัวได้ดีกว่า 30%
ส่วนตลาดศักยภาพสูงหดตัว 8.9 %เป็นผลมาจากการส่งออกไปอาเซียน-5 หดตัว 15.6% และจีนหดตัว 9% ตามลำดับ ขณะที่ตลาด CLMV ขยายตัว 0.3% และเอเซียใต้ 1.6% ด้านตลาดศักยภาพระดับรองหดตัวที่ 5.5% เนื่องจากการส่งออกไปทวีปออสเตรเลีย 15% กลุ่มประเทศ CIS หดตัว 8.5% และลาตินอเมริกา 1.2% ขณะที่การส่งออกไปตะวันออกกลางกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี ตลาดสหรัฐอเมริกา หดตัว1.4% สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และแผงวงจรไฟฟ้า ด้านสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบฯ และเหล็กและผลิตภัณฑ์
ตลาดสหภาพยุโรป(15) หดตัว 2.6% สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ เครื่องยนต์สันดาปฯ และเครื่องปรับอากาศฯ ด้านสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกล ขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2562 หดตัว 6.5 % ตลาดญี่ปุ่น ขยายตัว 7.4 % สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าฯ โทรทัศน์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เคมีภัณฑ์ และโทรศัพท์และอุปกรณ์ฯ เป็นต้น ขณะที่ไตรมาสแรกของปี 62 หดตัว 1.6%
อย่างไรก็ตาม หากผลการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศทั้งสหรัฐและจีนจบลงด้วยดี แนวโน้นราคาน้ำมันตลาดโลก ลดลง หลังจากกลุ่มประเทศโอเปกโดยเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน และค่าเงินบาทไม่ผันผวนมากจนเกินไป เชื่อว่าแนวโน้นการส่งออกของไทยไตรมาสที่เหลือของปีนี้น่าจะดีขึ้น นอกจากนี้หากไตรมาส 2 สามารถส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนเกินกว่า 21,000-22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้ยอดส่งออกทั้งปีเติบโตเกินกว่า 3-6% และเร็ว ๆ นี้เตรียมปรับตัวเลขคาดการณ์ส่งออกปีนี้ใหม่ จากเดิมคาดว่าจะโตไม่น้อยกว่า 8% เพราะหากจะได้ตัวเลขดังกล่าวส่งออกต้องเกินกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ