คลังรับสมัครพิโกพลัส ปล่อยกู้เงินแสนแก้หนี้นอกระบบ
เศรษฐกิจ
“ที่ผ่านมากระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกฯ เพื่อให้รองรับความต้องการทางการเงินของประชาชนที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งได้นำเสนอให้ ครม.รับทราบไปแล้ว และปัจจุบัน สศค. ได้ดำเนินการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ลงในในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.62 และมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.62 เป็นต้นไป”
สำหรับรายละเอียดการปรับปรุงหลักเกณฑ์ ได้มีการกำหนดให้เก็บ อัตรากำไรจากการให้สินเชื่อ เพื่อให้รองรับกลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ได้ตามหลักศาสนาอิสลามด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ชาวมุสลิมเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ รวมถึงมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบการ ในส่วนวงเงินสินเชื่อและทุนจดทะเบียน โดยถ้าเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ให้กู้ยืมเงินวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่ให้กู้ยืมไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย (พิโกพลัส) ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนการคิดดอกเบี้ย หรืออัตรากำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม ถ้าเป็นวงเงินสินเชื่อส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาทแรก ให้เรียกเก็บรวมกันได้ไม่เกิน 36% ต่อปี แต่ถ้าเป็นวงเงินสินเชื่อส่วนที่เกินกว่า 50,000 บาท เรียกเก็บรวมกันได้ไม่เกิน 28% ต่อปี ขณะเดียวกัน จะต้องจัดทำรายงานการให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และนำส่งมายัง สศค. เป็นรายเดือนตามแบบรายงานที่ สศค. ได้ปรับปรุงใหม่ และนำส่งงบการเงินประจำปีต่อ สศค. ภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นปีบัญชี