ข่าวคปภ.ประกาศเป็นปีแห่งการปรับตัว รับมือ5ภัยเสี่ยงธุรกิจ - kachon.com

คปภ.ประกาศเป็นปีแห่งการปรับตัว รับมือ5ภัยเสี่ยงธุรกิจ
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (คปภ.) เปิดเผยในงานประชุมสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัย ครั้งที่ 6 ว่า ในปี 62 สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัยให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปัจจัยที่กระทบต่อธุรกิจประกันภัย  และก่อให้เกิดความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ จำนวนมากถึง 5 ปัจจัย ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงและสภาวะโลกร้อน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ระบบเศรษฐกิจและการเงินของโลกที่ผันผวน รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด

“นอกจากภาคธุรกิจประกันภัยต้องมีการปรับตัวรับมือการแข่งขันทางธุรกิจ คปภ.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยก็ต้องมีการปรับตัว นำเอากลยุทธ์และเทคโนโลยี มาใช้ในการกำกับดูแล และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยให้มีความเข้มแข็งเช่นกัน เพราะอนาคตของธุรกิจประกันภัยจะมีความผันผวนค่อนข้างมาก”




นายสุทธิพลกล่าวว่า สำหรับแนวคิดในการจัดงานสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัยในปีนี้ จะเน้นเพิ่มศักยภาพของธุรกิจประกันภัย โดยมุ่งเน้นสนับสนุนงานวิชาการงานวิจัยและการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการใน 4 มิติหลัก อาทิ  มิติแรกคือการเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ลดต้นทุนการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งด้านการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัย ด้านการขาย  ด้านการพิจารณารับประกันภัย และด้านการจัดการค่าสินไหม

ส่วนมิติที่สองจะเน้นเสริมสร้างความรู้และการเข้าถึงการประกันภัยให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากขึ้น ด้วยการให้ความรู้เชิงรุกผ่านโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่สอดคล้องกับความต้องการและความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก ให้สามารถเข้าถึงและนำระบบประกันภัยมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัย อาทิ การประกันภัยพืชผลทางการเกษตร ส่วนมิติสามคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน ผ่านการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงตลาดประกันภัยในภูมิภาคอาเซียนผ่านการจัดทำหลักสูตรและความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่ง คปภ. ได้มีการลงนามความร่วมมือกับเพื่อนบ้านไปแล้ว ได้แก่  เมียนมา ลาว และกัมพูชา