คลังล้มแผน-แจก1,500เที่ยวเมืองรองห่วงกระแสฟุ่มเฟือย
เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง กำลังปรับปรุงรายละเอียดของมาตรการอยู่ เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและมีความคุ้มค่ากับงบประมาณที่สุด โดยในส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เบื้องต้นจะไม่เสนอให้ทำมาตรการแจกเงินให้คนละ 1,500 บาท 10 ล้านคน เพื่อไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีเพย์เมนท์ ในเมืองรอง 55 จังหวัดแล้ว เพราะเมื่อศึกษาอย่างละเอียดพบว่าโครงการนี้อาจไม่คุ้มค่า
นายอภิศักดิ์ เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จะคงเหลือแต่มาตรการทางภาษี ได้แก่ การขยายมาตรการเปิดให้นำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ปีนี้ 15,000 บาทต่อคน และขยายระยะเวลาเปิดจุดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในกรุงเทพฯและปริมณฑลให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปอีก 6 เดือน ถึงเดือนเม.ย.-ก.ย.62
นายอภิศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบนี้ จะเน้นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเหมือนเดิม โดยจะพิจารณาการเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม เพื่อให้สามารถนำไปเงินไปใช้ดำรงชีพได้ พร้อมกับเน้นมาตรการการช่วยเหลือด้านการศึกษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ ขณะเดียวกันจะมีการออกมาตรการทางภาษีช้อปช่วยชาติ เพื่อให้นำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้ออุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์กีฬา หนังสือมาลดหย่อนภาษีเงินได้ในปีนี้ได้เพิ่มด้วย
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า สาเหตุที่กระทรวงการคลังยกเลิกการแจกเงิน 1,500 บาท ให้ไปเที่ยวเมืองรอง เนื่องจากได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้ทบทวนใหม่ หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเป็นการส่งเสริมให้คนนำงบประมาณไปใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย รวมถึงยังไม่สบายใจที่มีกระแสข่าวหลุดมาก่อนที่จะนำเรื่องเสนอให้ ครม.พิจารณา จึงสั่งให้ชะลอและหาทางปรับปรุงมาตรการใหม่ให้เหมาะสม หรือจนกว่าจะมีความจำเป็นกว่าเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนประชารัฐฯ วงเงินรวมกว่า 13,180 ล้านบาท เพื่อเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้รูดซื้อสินค้าหรือกดเป็นเงินสดแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงกลางปี อีก 4 มาตรการ ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย.62 ได้แก่ มาตรการแรกการแจกเงินให้ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีบัตรประจำตัวผู้พิการ 1.1 ล้านคน วงเงิน 1,100 ล้านบาท โดยให้คนละ 200 บาท ต่อเดือนตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.62 มาตรการเติมเงินค่าปุ๋ยและปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรที่ถือบัตรคนจน 4 ล้านคน วงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยจะแจกให้ครั้งเดียวคนละ 1,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ให้แก่ผู้ปกครองที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีลูกในช่วงเปิดเทอมบุตร 2.7 ล้านคน รวม 1,300 ล้านบาท โดยจะแจกให้ครั้งเดียว 500 บาทต่อลูกหนึ่งคน แต่หากมีหลายคนก็จะได้รับเพิ่มขึ้น และมาตรการลดค่าครองชีพแก่ผู้มีรายได้น้อยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 14.5 ล้านคน วงเงิน 6,600 ล้านบาท โดยจะเติมให้ไปใช้จ่ายหรือกดเป็นเงินสดได้คนละ 500 บาท ช่วงกลางปี.