บอร์ดกทพ.ตั้ง "สุทธิศักดิ์"นั่งเก้าอี่ผู้ว่าการฯ
เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่30เม.ย.ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) กทพ.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน กทพ.ขึ้น ทำการแทนผู้ว่าการกทพ.เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งให้ “สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์” ผู้ว่าการ กทพ.ไปปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่24 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ว่าการในครั้งนี้คงไม่กระทบต่อการทำงานของกทพ.สามารถเดินหน้าต่อไปได้ทุกเรื่อง
นายสุรงค์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้คณะอนุกรรมการเจรจรไปดำเนินการเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 61 ให้ กทพ.ชดเชยรายได้ให้กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือเอ็นอีซีแอล (NECL) ในเครือ บีอีเอ็ม รวมดอกเบี้ยประมาณ 4 พันล้าน เพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้มีประเด็นทางเลือกใหม่ที่เป็นเงื่อนไขที่ดีขึ้น น่าจะเป็นโอกาสนำไปสู่การลดผลกระทบและเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดกับกทพ.จึงจำเป็นต้องไปเจราจา เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกรณีโฮปเวลล์ ที่ศาลตัดสินให้มีโอกาสในการเจราจาแล้วไม่ได้ทำ ส่วนการเจรจาจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคณะอนุกรรมการ ทั้งนี้ต้องเร่งจบเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะคณะรัฐมนตรี(ครม.)เร่งรัดมา 2รอบแล้ว
นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ ทำหน้าที่แทนผู้ว่ากทพ.กล่าวว่า การเจรจาค่าชดเชย 4 พันล้านบาทกับบีอีเอ็ม จะไม่เป็นปัญหาต่อการทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมากทพ.ดำเนินงานตามกระบวนการมาโดยตลอดแต่ยังไม่มีข้อสรุป แม้ว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้น บีอีเอ็ม จะมีมติเห็นชอบการขยายสัมปทานทางด่วนเพื่อแลกกับการเซ็ตซีโร่คดีฟ้องร้องทั้งหมด มูลค่า 1 แสนล้านบาท แล้วก็ตาม แต่กทพ.ไม่ได้ยึดตรงนั้นเป็นข้อยุติ เนื่องจากมีข้อสังเกตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ยืนยันว่ากทพ.จะใส่ใจความเห็นของทุกฝ่าย ทั้งสหภาพ กทพ. บอร์ดกทพ. กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามการมารับตำแหน่งทำการแทนผู้ว่าการกทพ.นั้น ไม่ได้กดดัน ถือเป็นงานสบายของคนที่จะเกษียณในอีก 5เดือนข้างหน้า