ศูนย์วิจัยฯคาดกนง.ตรึงดอกเบี้ยดูแลเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-04-30 18:31:00
3
Webmaster
2019-04-30 18:31:00
3
-
สนับสนุนเนื่อหา
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 8 พ.ค.คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% เพื่อรอประเมินพัฒนาการเศรษฐกิจไทย รวมทั้ง ผลของดำเนินนโยบายการเงินแบบเฉพาะเจาะจง ทั้ง Macro และ Micro Prudential เช่น การกำหนดเพดำนอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio)ตลอดจน มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ (Credit underwriting standards) ต่อกำรดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงกลางปี ของรัฐบาลน่าจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยลง บางส่วน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เครื่องชี้ เศรษฐกิจไทย ในช่วง 3 เดีอนแรกของปี 2562 ส่งสัญญาณถึงแรงขับเคลื่อนของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มี แนวโน้มชะลอลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลของภาคเศรษฐกิจภายนอกประเทศ ทั้งส่งออกที่หด ตัวลงต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการเร่งส่งออกในช่วงก่อนหน้า ตลอดจนการชะลอตัวลงของ เศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังคงเติบโตในระดับต่ำจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรปที่กระทบการขยายตัวของนักท่องเที่ยว
ขณะที่ภาคในประเทศแม้ว่า จะยังคงรักษาการขยายตัวในระดับที่ดีอยู่ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัว ปรากฏให้เห็น ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 62 ให้ขยายตัวประมาณ 3.3-3.4% อันเป็ นปัจจัยสนับสนุนให้ กนง. จำเป็ นที่จะต้องใช้ นโยบำยกำรเงินผ่อนปรนเพื่อประคองกำรเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกรอบล่างของเงินเฟ้อเป้าหมายในปีนี้ ทั้งนี้ แม้ว่าทิศทางของเงินเฟ้อจะขยับตัวขึ้ นในช่วงปัจจุบัน จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่เกิดขึ้นกลางปี ราคาน้ำมันและค่าโดยสารที่ปรับขึ้นมีผลต่อเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้การแข่งขันของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเข้มข้นจะลดทอนแรงกดดันเงินเฟ้อในปีนี้
นอกจากนี้คาดว่ากนง.รอติดตามประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการ จัดตั้งรัฐบาลและมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนพัฒนาการของเศรษฐกิจ ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นข้อพิพาททางการค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ คงจะบรรลุข้อตกลงได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/ 62 จะส่งผลให้การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนได้รับยกเว้นในช่วงครึ่งหลังเป็นปัจจัยบวกต่อการค้าโลก และส่งผลดีต่อส่งออกของไทยที่จะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง คาดว่าส่งออกขยายตัว 3.2%
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ เครื่องชี้ เศรษฐกิจไทย ในช่วง 3 เดีอนแรกของปี 2562 ส่งสัญญาณถึงแรงขับเคลื่อนของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มี แนวโน้มชะลอลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลของภาคเศรษฐกิจภายนอกประเทศ ทั้งส่งออกที่หด ตัวลงต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการเร่งส่งออกในช่วงก่อนหน้า ตลอดจนการชะลอตัวลงของ เศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังคงเติบโตในระดับต่ำจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรปที่กระทบการขยายตัวของนักท่องเที่ยว
ขณะที่ภาคในประเทศแม้ว่า จะยังคงรักษาการขยายตัวในระดับที่ดีอยู่ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัว ปรากฏให้เห็น ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 62 ให้ขยายตัวประมาณ 3.3-3.4% อันเป็ นปัจจัยสนับสนุนให้ กนง. จำเป็ นที่จะต้องใช้ นโยบำยกำรเงินผ่อนปรนเพื่อประคองกำรเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกรอบล่างของเงินเฟ้อเป้าหมายในปีนี้ ทั้งนี้ แม้ว่าทิศทางของเงินเฟ้อจะขยับตัวขึ้ นในช่วงปัจจุบัน จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่เกิดขึ้นกลางปี ราคาน้ำมันและค่าโดยสารที่ปรับขึ้นมีผลต่อเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้การแข่งขันของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเข้มข้นจะลดทอนแรงกดดันเงินเฟ้อในปีนี้
นอกจากนี้คาดว่ากนง.รอติดตามประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการ จัดตั้งรัฐบาลและมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนพัฒนาการของเศรษฐกิจ ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นข้อพิพาททางการค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ คงจะบรรลุข้อตกลงได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/ 62 จะส่งผลให้การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนได้รับยกเว้นในช่วงครึ่งหลังเป็นปัจจัยบวกต่อการค้าโลก และส่งผลดีต่อส่งออกของไทยที่จะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง คาดว่าส่งออกขยายตัว 3.2%
