ข่าวเผย3แสนเอสเอ็มอี ยังขาดความรู้ทำบัญชีเดียว - kachon.com

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับ 4 หน่วยงาน สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธนาคารแห่งประเทศไทย ออกเดินสาย10 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ รวมถึงกรุงเทพฯ เพื่อให้ความรู้ และความช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีให้จัดทำบัญชีและงบการเงินที่ถูกเพื่อส่งเสริมให้เอสเอ็มอี จัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ

สำหรับผู้ประกอบการที่เคยทำผิดพลาดจนเกิดภาระทางภาษีต่าง ๆ กรมฯได้ออกมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ภายใต้ พ.ร.บ. ยกเว้นเบี้ยปรับเงินเพิ่มภาษีอากร และความรับผิดทางอาญา ซึ่งจะช่วยบรรเทาเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับอาญาให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ มีบัญชีและงบการเงินที่สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ทำให้มีความน่าเชื่อถือ มีข้อมูลเพื่อวางแผนธุรกิจ สามารถต่อยอดธุรกิจได้ เพราะการทำบัญชีและงบการเงินที่ดี จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการขยายกิจการของธุรกิจได้




นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีให้ถูกต้องจำนวนมาก โดยมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน้าที่จะต้องชำระภาษีตามกฎหมายกว่า 700,000 ราย แต่มีผู้ยื่นงบการเงินเพียง 400,000 ราย และยังไม่ยื่นถึง 300,000 ราย และที่สำคัญผู้ที่ยื่นงบการเงินก็มีทั้งบัญชีที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การออกมาตรการในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถผลักดันผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบบัญชีเดียว ได้มากกว่า 200,000 ราย ทั้งรายเก่าและรายใหม่

“การจัดทำบัญชีที่ถูกต้องมีความสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องใช้บัญชีที่ยื่นต่อกรมสรรพากรเป็นหลักฐาน ในการยื่นขอกู้แบงก์ซึ่งถือเป็นกติกาที่บังคับให้ผู้ประกอบการต้องทำบัญชีเล่มเดียว เพราะเงินทุนหมุนเวียนคือหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก หากไม่สามารถนำบัญชีที่ยื่นต่อกรมสรรพากรไปกู้แบงก์ได้ ก็เท่ากับว่า ขาดโอกาสในการทำธุรกิจ”