ข่าวเปิดช่อง7-14พ.ค.ฝากเงินออมแจ้งขอไม่ส่งข้อมูลสรรพากร - kachon.com

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร  เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมปรับปรุงแก้ไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 344) ใหม่ภายในสัปดาห์นี้ แต่มีผลย้อนหลังในวันที่ 4 เม.ย. 62  โดยให้ผู้ฝากเงินที่ไม่ต้องการได้รับการยกเว้นภาษีให้แจ้งธนาคารหากไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากให้กรมสรรพากรจะต้องไปกรอกแบบฟอร์มยื่นความจำนงกับธนาคารฯที่เปิดบัญชีอยู่ทุกบัญชีตั้งแต่วันที่ 7-14 พ.ค.นี้ แต่ธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยไว้ในอัตรา 15% กรณีที่ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท  ซึ่งหากไม่ให้ธนาคารหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่เมื่อถึงเวลายื่นแบบแสดงเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและกรมสรรพากรพบว่ามีรายได้ดอกเบี้ย 20,000 บาทอาจจะถูกนำมารวมเป็นรายได้ตอนยื่นภงด.90และภงด.91 ซึ่งอาจทำให้บุคคล ๆ นั้นต้องเสียภาษีรายได้เพิ่มจากเดิมที่อาจะต้องเสียภาษีในอัตรา 15% แต่เมื่อรวมรายได้ดอกเบี้ยอาจถูกเก็บเป็นอัตรา 20 % เป็นต้น   ส่วนบุคคลทั่วไปที่มีดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาทก็ไม่จ่ายภาษี  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ฝากเงินออมทรัพย์ที่มีบัญชีอยู่ประมาณ 99%

“ ปกติธนาคารก็ต้องส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรทั้งหมดเหมือนเดิมอยู่แล้วในรูปแบบ ภงด. 2  แต่การดำเนินการดังกล่าวเพื่อลดปัญหาการทำธุรกรรมในรูปกระดาษลง เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารงานที่สูง  และมีการนำส่งข้อมูลทางระบบอิเลคทรอนิกส์มากขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการหาช่องทางเก็บภาษีเพิ่มเติม เพราะมีวิธีอื่นที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว”

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย  กล่าวว่า การกำหนดให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยทุกบัญชีต่อกรมสรรพากร จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่ของประเทศ  ซึ่งลูกค้าไม่ต้องการให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร ต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อแจ้งความประสงค์กับธนาคารที่ลูกค้ามีบัญชีอยู่ให้ครบทุกธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 7-14  พ.ค. มีผลตั้งแต่รอบภาษีดอกเบี้ยจ่ายครึ่งปีแรกในเดือนมิ.ย.นี้  อย่างไรก็ตาม  แต่ละแบงก์จะต้องไปจัดทำแบบฟอร์มและแจ้งรายละเอียดให้กับลูกค้าให้ทันกับระยะเวลาดังกล่าว