ข่าวการยาสูบฯยันไม่ขึ้นราคาบุหรี่1ปี พร้อมตรึงยาเส้น10บ.ช่วยขี้ยา - kachon.com

การยาสูบฯยันไม่ขึ้นราคาบุหรี่1ปี พร้อมตรึงยาเส้น10บ.ช่วยขี้ยา
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2562 โดยมีเนื้อหาสำคัญให้ขยายระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ราคาไม่เกินซอง 60 บาท ในอัตราเดิม 20% ไป อีก 1 ปี จนถึงวันที่ 30 ก.ย.63 และให้ปรับขึ้นภาษียาเส้นจากเก็บ 0.005 บาทต่อกรัม เป็น 0.1 บาทต่อกรัม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.62 เป็นต้นไป
 
รายงานข่าวจากการยาสูบแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า การยาสูบฯ จะไม่ปรับขึ้นราคาบุหรี่ทุกชนิด ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 63  หรือจนกว่ารัฐบาลจะพิจารณาภาษีใหม่ ซึ่งต่างจากเดิมที่ประเมินว่าถ้ารัฐขึ้นภาษีอาจต้องปรับราคาบุหรี่เพิ่มจากซอง 60 บาท เป็น 93 บาท ส่วนการจำหน่ายยาเส้นที่ขึ้นภาษีมา 20 เท่า การยาสูบฯจะพยายามตรึงราคาไว้ที่ซองละ 10 บาทต่อไป โดยอาจยอมมีกำไรน้อยลงหรือลดปริมาณใบยา แต่หากจำเป็นต้องขึ้นราคาจริงก็อาจขึ้นแค่ซองละ 1-2 บาท ซึ่งต่ำกว่าภาระภาษีที่เพิ่มเพื่อให้กระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด


ด้านนายกิตติทัศน์ ผาทอง ตัวแทนภาคียาสูบแห่งประเทศไทย ได้นำชาวไร่ยาสูบจากภาคเหนือ ภาคอีสาน และเพชรบูรณ์-สุโขทัย จำนวน 100 คน รวมตัวกันที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิต  โดยกล่าวว่า  ขอบคุณรัฐบาลที่รับฟังความเดือนร้อนของชาวไร่ 5 หมื่นครอบครัว ในการเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่ 159 ล้านบาท  รวมถึงเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ออกไปอีก 1 ปี  แต่อยากให้กรมสรรพสามิตทำแผนขึ้นภาษีบุหรี่แบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น เพิ่มทีละ 5% ทุกๆ 2 ปี เพื่อให้ชาวไร่ปรับตัวได้ ซึ่งหลังจากนี้หากมีการตั้งรัฐบาลใหม่ จะจัดประชุมและเชิญ รมว. คลังคนใหม่มารับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมอีกครั้ง

นายเจอรัลด์ มาร์โกลิส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลที่เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปอีก 1 ปี เพราะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาที่ซับซ้อนของอุตสาหกรรม และยังช่วยให้ชาวไร่ยาสูบกว่า 4 หมื่นครอบครัว ผู้ผลิต และร้านค้าปลีก-ร้านค้าส่งที่ขายสินค้าถูกกฎหมายได้มีเวลาในการปรับตัวมากขึ้น

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า  การขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ที่เริ่มมีผลช่วงเดือนก.ย.60 ทำให้คนหันมาสูบยาเส้นเพิ่มขึ้นจากปี 59 สูบ 12 ล้านกก.เป็น 26 ล้านกก. ส่งผลให้กรมฯต้องขึ้นภาษียาเส้นเพื่อลดช่องว่างราคาขายปลีกบุหรี่กับยาเส้นจากเดิม 300 เท่าเหลือ 17 เท่า เพราะไม่ต้องการส่งเสริมให้คนบริโภคในสิ่งที่เป็นอันตราย และสูบยาเส้นก็อันตรายกว่าเพราะไม่มีก้นกรอง”