ข่าวเอสเอ็มอีรายจิ๋ววิตกเศรษฐกิจไทย ฉุดความเชื่อมั่นลด - kachon.com

เอสเอ็มอีรายจิ๋ววิตกเศรษฐกิจไทย ฉุดความเชื่อมั่นลด
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก  (Krungsri SME Index) ในไตรมาส 1/ 62 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใน 3 เดือนข้างหน้ายังอยู่ในแดนบวกที่ 20.23 จากไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 25.42   สอดคล้องกับที่วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับปานกลาง เนื่องจากอุปสงค์ต่างประเทศลดลงตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและการหดตัวของปริมาณการค้าโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มชะลอตัวลง 

อย่างไรก็ดี การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ใกล้จะได้ข้อสรุป ทำให้ความไม่แน่นอนของการค้าโลกมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการค้าโลกในช่วงครึ่งปีหลัง  ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวดี  โดยมองว่าการลงทุนภาครัฐอาจขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหนึ่งจากความล่าช้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง เพราะมีการปรับรูปแบบการลงทุนในโครงการร่วมลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership: PPP) บางโครงการเพื่อให้เอกชนดำเนินการมากขึ้น 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอสเอ็มอีมองเศรษฐกิจไตรมาส 1 เติบโตลดลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการในภาคบริการที่ดัชนีความเชื่อมั่นติดลบถึง 25.16 หากพิจารณาตามขนาดธุรกิจพบว่า ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กมีมุมมองต่อเศรษฐกิจในทางลบมากกว่าผู้ประกอบการขนาดกลาง ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตลดลงจากเดือนก่อนหน้า รวมทั้งมูลค่าการส่งออกและรายได้จากนักท่องเที่ยวหดตัว คาดว่าจีดีพี ไตรมาส 1/ 62 โตน้อยกว่า 3% และทั้งปีอาจโตไม่ถึง 3.8% ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า 

นอกจากนี้ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการทั่วประเทศในช่วงวันที่ 1-28 มี.ค.ที่ผ่านมา ในเรื่องรูปแบบการชำระเงิน พบว่าผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ 53% เลือกชำระด้วยเช็ค เนื่องจากคู่ค้ายังไม่มีการใช้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และไม่มั่นใจด้านความปลอดภัยของระบบและข้อมูลของการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนรูปแบบการชำระเงินในลำดับรองมาคือการชำระผ่าน Internet Banking  19% การชำระด้วยเงินสด 15%  และการจ่ายผ่านโมบายแบงก์กิ้ง 8% 

"การชำระเงินด้วยโมบายแบงก์กิ้งเป็นที่นิยมในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก สาเหตุที่ผู้ประกอบการเลือกช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากเหตุผลด้าน 1. ความสะดวก รวดเร็ว ความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ 2.คู่ค้าส่วนมากใช้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และ 3. ไม่มีค่าธรรมเนียม โดยผู้ประกอบการเกินกว่าครึ่งคาดว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจจะมีแนวโน้มชำระเงินผ่านระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น"