เปิด'แผนลดตาย'เที่ยวทางน้ำ ชู'เรือ-ท่าเรือ-คน'ปลอดภัย
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-05-10 16:07:00
4
Webmaster
2019-05-10 16:07:00
4
-
สนับสนุนเนื่อหา
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้กำหนด มาตรการยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด 3 ด้าน ได้แก่ 1.เรือปลอดภัย 2.ท่าเรือปลอดภัย และ 3.คนปลอดภัย เพื่อรองรับกิจกรรมทางน้ำรูปแบบต่างๆ โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานในท้องถิ่น ในการกำกับดูแลและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เพื่อลดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้การเดินทางทางน้ำฝั่งอันดามัน 3 จังหวัด (ภูเก็ต-กระบี่-พังงา) ได้ดำเนินการตามมาตรการดังนี้ ด้านเรือปลอดภัย ได้ตรวจสอบสภาพเรือโดยสารซ้ำ (Re-check) ขนาด 30 ตันกรอสส์ขึ้นไป จ.ภูเก็ต 471 ลำ กระบี่ 70 ลำ และ พังงา 30 ลำ, การตรวจสภาพเรือสปีดโบ้ท(Speed Boat) ซ้ำ จ.ภูเก็ต 161 ลำ กระบี่ 220 ลำ และพังงา 150 ลำ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้านท่าเรือปลอดภัย ได้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของท่าเทียบเรือที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ดังนี้ จ.กระบี่ 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือ อบจ.กระบี่ ท่าเรือเกาะพีพี ท่าเรือเจ้าฟ้า ท่าเรือศาลาด่าน และท่าเรือท่าเลน จ.ภูเก็ต 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรืออ่าวปอ ท่าเรือรัษฎา ท่าเรือพีเอ็นที คานเรือรุ่งสยาม และท่าเรืออ่าวฉลอง จ.พังงา 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมาเนาะ ท่าเรือบ้านท่าเขา และท่าเรือช่องหลาด พร้อมกันนี้ยังจัดตั้งจุด Check Point ที่ จ.กระบี่ 9 จุด ภูเก็ต 24 จุด และพังงา 23 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย โดยก่อนเรืออออกจากท่า ต้องทำบัญชีผู้โดยสาร ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกิน และที่สำคัญต้องมีเสื้อชูชีพไม่น้อยกว่าจำนวนผู้โดยสาร
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนด้านคนปลอดภัย ได้เผยแพร่คู่มือการเดินทางทางน้ำปลอดภัย และคู่มือการตรวจความพร้อมก่อนออกเรือ พร้อมฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ทำการในเรือจากการถอดบทเรียนอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเรือสปีดโบ้ท เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และจัดทำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำผู้โดยสารในการเดินทางทางน้ำ อย่างไรก็ตาม กรมเจ้าท่ายังบูรณาการในการตรวจความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานอื่น ได้แก่ ตำรวจน้ำ, ตำรวจท่องเที่ยว, อุทยานฯ โดยทุกสัปดาห์จะออกตรวจตราเรือโดยสารทุกประเภท และในแต่ละวันจะเข้มงวดกวดขันพนักงานประจำท่าเทียบเรือให้ตรวจสอบ และนำนักท่องเที่ยวให้สวมเสื้อชูชีพทุกคนก่อนเรือออกจากท่า เน้นย้ำการไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารของเรือต้องพร้อมและไม่ขาดอายุ ทั้งทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ และประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ.
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้านท่าเรือปลอดภัย ได้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของท่าเทียบเรือที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ดังนี้ จ.กระบี่ 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือ อบจ.กระบี่ ท่าเรือเกาะพีพี ท่าเรือเจ้าฟ้า ท่าเรือศาลาด่าน และท่าเรือท่าเลน จ.ภูเก็ต 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรืออ่าวปอ ท่าเรือรัษฎา ท่าเรือพีเอ็นที คานเรือรุ่งสยาม และท่าเรืออ่าวฉลอง จ.พังงา 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมาเนาะ ท่าเรือบ้านท่าเขา และท่าเรือช่องหลาด พร้อมกันนี้ยังจัดตั้งจุด Check Point ที่ จ.กระบี่ 9 จุด ภูเก็ต 24 จุด และพังงา 23 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย โดยก่อนเรืออออกจากท่า ต้องทำบัญชีผู้โดยสาร ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกิน และที่สำคัญต้องมีเสื้อชูชีพไม่น้อยกว่าจำนวนผู้โดยสาร
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนด้านคนปลอดภัย ได้เผยแพร่คู่มือการเดินทางทางน้ำปลอดภัย และคู่มือการตรวจความพร้อมก่อนออกเรือ พร้อมฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ทำการในเรือจากการถอดบทเรียนอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเรือสปีดโบ้ท เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และจัดทำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำผู้โดยสารในการเดินทางทางน้ำ อย่างไรก็ตาม กรมเจ้าท่ายังบูรณาการในการตรวจความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานอื่น ได้แก่ ตำรวจน้ำ, ตำรวจท่องเที่ยว, อุทยานฯ โดยทุกสัปดาห์จะออกตรวจตราเรือโดยสารทุกประเภท และในแต่ละวันจะเข้มงวดกวดขันพนักงานประจำท่าเทียบเรือให้ตรวจสอบ และนำนักท่องเที่ยวให้สวมเสื้อชูชีพทุกคนก่อนเรือออกจากท่า เน้นย้ำการไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กำหนดในใบอนุญาตใช้เรือ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารของเรือต้องพร้อมและไม่ขาดอายุ ทั้งทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ และประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ.
