ข่าวพร็อพเพอร์ตี้ฯเดินสายโรดโชว์คอนโด "ยูคิโรโระ" - kachon.com

พร็อพเพอร์ตี้ฯเดินสายโรดโชว์คอนโด "ยูคิโรโระ"
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 5,689 ล้านบาท  เติบโตขึ้น 42%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 661 ล้านบาท เติบโต
239%  มีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,905 ล้านบาท  ธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่นรวม 1,263 ล้านบาท จากการขายที่ดิน 477 ล้านบาท และยังมีรายได้จากค่าเช่าและบริการอีก 44 ล้านบาท 

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยอดโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และมียอดโอนฯจากโครงการไอคอนโด สุขุมวิท 77 เข้ามาจำนวนมาก ด้านธุรกิจโรงแรมมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน ที่มีอัตราเข้าพักสูงถึง 87%  และจากการเปิดดำเนินการโรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ สุขุมวิทด้วย


ส่วนไตรมาส 2 คาดว่ารายได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ โดยกลุ่มบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 6,100 ล้านบาท เป็นยอดขายในประเทศ 4,500 ล้านบาท และมียอดขายจากโครงการ “ยู คิโรโระ” คอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันทำได้แล้วกว่า 40% หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ในปลายปีนี้ และจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ คิโรโระ กลับมามีกำไรในปีนี้  

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของโครงการ “ยู คิโรโระ” ครึ่งหนึ่งเป็นชาวเอเชียทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าชาวไทย ซึ่งโครงการได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไทยเกินความคาดหมาย  บริษัทยังมีแผนโรดโชว์ในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย คาดว่าจะสามารถทำยอดขายปิดโครงการคอนโดมิเนียมได้ภายในปีหน้า

ทั้งนี้ไตรมาส 1/62  กลุ่มบริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ เป็นแนวราบ 4 โครงการ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ  ไตรมาส 2 จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 4 โครงการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาท และจะมีการเปิดตัวบ้านนวัตกรรมภายใต้การร่วมทุนกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 2,230 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ เป็นแนวราบ 8 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ เป็นไปตามแผนเพื่อช่วยผลักดันยอดขาย ด้านกลยุทธ์ไตรมาส 2 ซึ่งมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เริ่มมีผลบังคับใช้ บริษัทได้ปรับสัดส่วนสินค้าจากที่เน้นบ้านพร้อมอยู่ มาเป็นบ้านขายระหว่างสร้าง เพื่อให้มีระยะเวลาผ่อนดาวน์เพิ่มขึ้น และยืดเวลาให้ดาวน์ถึง 6 เดือน เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาสะสมเงินดาวน์