KTAMเสิร์ฟ2กองทุนตราสารหนี้ตปท.ชูยิลด์1ปี2%
เศรษฐกิจ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุนให้นักลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 236 ( KTFF236 ) อายุโครงการ 6 เดือน และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 239 ( KTFF239 ) อายุโครงการ 12 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 21 พ.ค.นี้ เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80%
สำหรับกองทุน KTFF 236 ลงทุนในเงินฝากประจำไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์เอเชีย , กาตาร์เนชั่นแนลแบงก์ , AL Khalij Comercial Bank ,Commercial Bank PQSC และบัตรเงินฝากของ Bank of Communications และ China Merchants Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.8% ต่อปี ส่วนกองทุน KTFF239 ลงทุนในเงินฝากประจำแบงก์ออฟไชน่า , ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์เอเชีย , AL Khalij Comercial Bank , AL Ahli Bank , Commercial Bank PQSC บัตรเงินฝาก China Merchants Bank และ MTN ของ Emirates NBD PJSC และ Mashreq Bank ผลตอบแทนประมาณ 2% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุ ตามกระแส นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย จากที่สหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เป็น 25% โดยนักลงทุนยังคาดหวังว่าการเจรจาการค้าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ และ การขึ้นภาษีจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าที่คาด โดยอัตราผลตอบแทนอายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.27% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง มาอยู่ที่ 2.26% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.47%
ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามปัจจัยเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.82% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.09% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.53% ต่อปี กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่สูงมากนัก และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน