คุมเข้มรถตู้หมดอายุแอบวิ่ง ปรับแน่ 5 หมื่น-2 แสน
เศรษฐกิจ
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการอำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถตู้โดยสารประจำทาง ที่มีอายุการใช้งานครบ 10 ปี อยู่ในการกำกับดูแลของ ขสมก. 1,000 คัน เจ้าของรถตู้ได้นำรถคันใหม่มาวิ่งให้บริการทดแทนรถคันเดิมแล้ว 500 คัน ส่วนที่เหลือยังมีการฝ่าฝืนนำรถมาวิ่งให้บริการ ซึ่งรถโดยสารดังกล่าว มีอายุการใช้งานหลายปี ทำให้อุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานและถังก๊าซก็จะหมดอายุการรับรองคุณภาพ อีกทั้งบริษัทประกันภัยจะไม่รับจัดทำประกันภัย ให้กับรถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความคุ้มครอง เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ
นายประยูร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 60 ได้กำหนดมาตรการ เพื่อให้เจ้าของรถตู้โดยสารจัดหารถคันใหม่ มาวิ่งให้บริการทดแทนรถตู้โดยสารคันเดิมที่หมดอายุ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ให้เปลี่ยนเป็นรถตู้โดยสารคันใหม่หรือรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี และเมื่อนำมาเปลี่ยนทดแทนแล้ว ให้มีอายุการใช้งานรวมแล้วไม่เกิน 10 ปี โดยจะต้องเปลี่ยนภายในวันที่ 30 ก.ย.62 2.หลังจากวันที่ 30ก.ย.62 ให้เปลี่ยนเป็นรถโดยสารขนาดเล็กมาตรฐาน 2 (จ) (ที่ไม่ใช่รถตู้โดยสาร) เท่านั้น โดยรถดังกล่าวจะต้องมีระบบห้ามล้อแบบ ABS หรือระบบห้ามล้อแบบอื่น ที่มีมาตรฐานเท่ากันหรือสูงกว่า พร้อมติดตั้งระบบ GPS และอุปกรณ์แสดงผลความเร็วตามมาตรฐานที่ ขบ.กำหนด
นายประยูร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขสมก. ได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดชุดเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ ตรวจสอบการให้บริการรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณจุดปล่อยรถต้นทาง-ปลายทาง อาทิ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร เพื่อสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง หากตรวจพบว่าฝ่าฝืนนำรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีมาวิ่งให้บริการ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท โดย ขสมก. ได้จัดเตรียมรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) มาวิ่งให้บริการทดแทนรถตู้โดยสารประจำทาง ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี ซึ่งถูกระงับการให้บริการ ในจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน