คนร.ห่วงพนักงานขสมก.ต้องเออร์รี่ฯ
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-05-17 07:18:00
3
Webmaster
2019-05-17 07:18:00
3
-
สนับสนุนเนื่อหา
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูของ ขสมก. เพื่อล้างหนี้และผลขาดทุนสะสม 128,000 ล้านบาท หลังจากนี้ต้องเสนอแผนฟื้นฟูเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ คาดว่าจะเสนอได้ภายใน พ.ค. นี้ หาก ครม. เห็นชอบแผนแล้ว ขสมก. จะเดินหน้าจัดหารถเมล์ใหม่ 2,188 คัน แบ่งเป็น จัดเช่ารถเมล์ 700 คัน อาทิ รถเมล์ระบบดีเซลและไฟฟ้า (ไฮบริด) 400 คัน และรถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) 300 คัน ขณะนี้ร่างขอบเขตการประกวดราคา (ทีโออาร์) แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างตั้งราคากลาง คาดว่าสิ้นเดือน พ.ค. แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมเสนอขึ้นเว็บไซต์ประชาพิจารณ์ 1 ครั้ง หากมีข้อท้วงติงนำมาปรับแก้ไข ก่อนเข้าสู่กระบวนการเปิดประมูล 3 เดือนให้แล้วเสร็จและได้ตัวเอกชนภายในปี 62 และทยอยส่งมอบรถในปี 63 โดยช่วงระยะเวลากำหนดการส่งมอบรถต้องให้มีความเหมาะด้วย ต้องไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าจนเกินไป ประมาณ 120 วัน หรือ 150 วัน หรือ 180 วันหลังจากลงนามสัญญา เพื่อให้เอกชนเตรียมตัวและส่งมอบรถได้ตามแผน
นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องจัดซื้อรถเมล์ไฮบริด 1,453 คันตอนนี้ ขสมก. ขอดูผลการจัดเช่ารถเมล์ 700 คันก่อน หากประสบความสำเร็จ ขสมก. อาจจะปรับแผนจากซื้อเป็นเช่าแทนได้ เพราะถูกกว่า ขณะเดียวกันมีการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) 35 คัน ขณะที่โครงการว่าจ้างปรับปรุงสภาพรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ยี่ห้อฮีโน่ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 323 คัน วงเงิน 138,567,000 บาท หรือคันละ 429,000 บาท โดยมีบริษัท ฮีโน่มอเตอร์เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัดเป็นผู้ชนะ หลังจากแผนฟื้นฟูองค์การผ่าน ครม. แล้ว ขสมก. จะลงนามสัญญา จากนั้นต้องปรับปรุงสภาพรถ เช่น บอดี้ ปรับปรุงป้ายดิจิทัลหน้ารถบอกสายรถเมล์ ผ้าม่าน ระบบแอร์ พื้นภายในรถ และทาสีใหม่ เพื่อส่งมอบรถล็อตแรก 30 คัน หลังจากลงนามสัญญาแล้ว 2 เดือน และทยอยส่งมอบเป็นล็อต ล็อตละ 30 คันต่อเดือน และต้องส่งมอบให้แล้วเสร็จตามแผนภายใน 11 เดือนหลังจากลงนามสัญญา
นายณัฐชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าแผนปรับลดจำนวนพนักงานที่ให้พนักงานเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่ รีไทร์) เมื่ออนาคตมีระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (อีทิคเก็ต) ที่เป็นเครื่องมือในการชำระค่าโดยสารแทนพนักงานเก็บค่าโดยสารนั้น ทาง คนร. มีความกังวลที่จะปรับลดพนักงาน และให้ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นผลกระทบโดยตรงกับพนักงาน เรื่องนี้ ขสมก. ชี้แจงว่ากับพนักงาน ขสมก. ทั้ง 13,000 คน แล้วในการปรับลดพนักงานดังกล่าว โดยต้องมาจากความสมัครใจจากพนักงานเท่านั้นจะไม่มีการบังคับ และในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากพนักงานเก็บค่าโดยสารมาใช้ระบบอีทิคเก็ตหรือเทคโนโลยีในการชำระค่าโดยสารแทนคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปี
