ทองคำผันผวนวิตกปัจจัยลบต่างประเทศ
เศรษฐกิจ
รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ทองคำในประเทศผันผวนช่วงเช้าปรับลง 100 บาท หลังจากนั้นได้ปรับขึ้น 50 บาท ถือเป็นการปรับลง 50 บาท เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า31.76 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมอยู่ที่ 31.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ ขณะที่ราคาต่างประเทศทรงตัวอยู่ที่ 1,286.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่งผลให้ทองแท่งรับซื้อบาทละ19,250 บาท ขายออกบาทละ 19,350 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,904.52 บาท และขายออกบาทละ 19,850 บาท
รายงานข่าวจากวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแจ้งว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 9.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำถูกกดดันจากปัจจัย 2 ประการ ประการแรกได้แก่ การพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันของตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อาทิ บริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ และวอลมาร์ท ซึ่งช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับสงครามทางการค้าหลังจาก
ล่าสุดสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน Huawei Technologies Co Ltd ซึ่งการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดแรงหนุน ปัจจัยที่ 2 ที่กดดันราคาทองคำ ได้แก่ การแข็งค่าของดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาดหลายรายการ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 212,000 ราย, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นกัน
นอกจากนี้เงินยูโรอ่อนค่าลงจากความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งสภายุโรปในสัปดาห์หน้า จึงช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มเติมจนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงราว -0.8% วานนี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM รวมไปถึงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสงครามการค้าจีนและสหรัฐเพื่อใช้เป็นปัจจัยกำหนดทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป