แนะลงทุนหุ้นในประเทศช่วงสงครามการค้าปะทุ
เศรษฐกิจ
รายงานข่าวจากบล.เอเชียพลัสแจ้งว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า ( 21 พ.ค. – 24 พ.ค.) คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 จุด บวก/ลบ 20 จุด โดยการจัดน้ำหนักการลงทุนในพอร์ตรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงให้ลงทุนในตลาดหุ้นไทย 40% เน้นหุ้น Domestic Play ที่จ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหุ้นที่ปลอดภัย ส่วนหุ้นต่างประเทศ น้ำหนักการลงทุน 15% แต่ปรับเอากองทุนทองคำออกและเปลี่ยนเป็นกองทุนที่ลงทุน Weight น้ำหนักของตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าไปแทน ในส่วนของตราสารหนี้ คงน้ำหนักไว้ที่ 20% ทั้งนี้เชื่อว่าทิศทางดอกเบี้ยจะทรงตัวระดับต่ำ หรืออาจเห็นการปรับลดลงในบางประเทศ ตัวเลือกการลงทุนยังคงคุมค่าเฉลี่ย Duration ไว้ที่ไม่เกิน 3 ปี
ขณะที่ Money Market มีน้ำหนักการลงทุน 15% เพื่อพักเงินรอจังหวะกระจายการลงทุนรอบใหม่ทางด้านการลงทุนตราสารทางเลือกน้ำหนัก 10% เลือกลงทุนเฉพาะ FCN ส่วน ELN มีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นเรื่องพัฒนาการของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนต่อไป ซึ่งเชื่อว่าความหวังที่จะบรรลุข้อตกลง และหลายประเทศกลับมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายการเงินผ่อนคลายน่าจะมีส่วนช่วยจำกัดความเสี่ยง โดยให้น้ำหนัก 23 พ.ค. รายงาน Fed Minute ของ สหรัฐฯ และ 23-26 พ.ค. การเลือกตั้งผู้นำในสหภาพยุโรป (EU) 27 ประเทศ ซึ่งจะมีน้ำหนักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและ Brexit
" ภาพความผันผวนของตลาดหุ้นสำคัญในต่างประเทศยังคงดำเนินต่อไป แต่ระดับความผันผวนลดต่ำลง โดยประเด็นที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคายังคงเป็นเรื่อง พัฒนาการของสงครามการค้า และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง น้ำหนักการลงทุนในพอร์ตหุ้นต่างประเทศ ยังคงไว้ที่ 15% ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำ ยังให้Overweight ตลาดหุ้น EM - Asia ตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral ส่วนตลาดหุ้นยุโรป Underweight ตัวเลือกการลงทุนสัปดาห์นี้ หลบหลีกจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง เน้นเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง กองทุนทรัสต์ ที่กำไรเติบโตต่อเนื่อง และให้ผลตอบแทนสูงถึง 5% ต่อปี"