ข่าวถกรีดภาษีแวต7%สินค้าอี-คอมเมิร์ซจากต่างประเทศ - kachon.com

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)  ได้มีการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร กรมศุลกากร เพื่อทบทวนเรื่องการยกเว้นภาษีอากรพัสดุไปรษณีย์จากต่างประเทศ และความเป็นไปได้ในการจัดเก็บภาษีมูลเพิ่ม 7% สำหรับสินค้านำเข้าทางไปรษณีย์และพัสดุเร่งด่วนที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อสร้างความเป็นธรรม และป้องกันไม่ให้มีการใช้ข้อยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าทางไปรษณีย์ในการหลบเลี่ยงภาษีอีก โดยตั้งเป้าหมายเริ่มการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มพัสดุไปรษณีย์จากต่างประเทศให้ทันเดือนก.ค.นี้

 “สาเหตุที่ต้องมีการทบทวนระเบียบการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าทางไปรษณีย์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ หรือค้าออนไลน์จากต่างประเทศจำนวนมาก วันหนึ่งนับแสนรายการ และบางส่วนก็พบมีการสำแดงเท็จ สำแดงราคาต่ำกว่า 1,500 บาทเพื่อให้เลี่ยงภาษีขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงยังพบว่ามีผู้ประกอบการ สั่งซื้อสินค้าทางไปรษณีย์มาจำหน่ายโดยตรง หรือแยกนำเข้ามาเป็นห่อย่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิน 1,500 บาทเพื่อหลบเลี่ยงภาษีด้วย ดังนั้นจะต้องหาทางอุดช่องโหว่jในส่วนนี้”


สำหรับแนวทางเบื้องต้นอาจจะมีการแยกกลุ่มการเก็บภาษี โดยคนที่สั่งซื้อสินค้าทางไปรษณีย์จากต่างประเทศที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อนำมาเป็นของใช้ส่วนตัวจะได้รับการยกเว้นภาษีเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นของที่สั่งนำเข้าทางไปรษณีย์จากต่างประเทศมาเพื่อค้าขายแม้จะต่ำกว่า 1,500 บาท จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด แต่อากรขาเข้ายังได้รับการยกเว้นอยู่ไม่เช่นนั้นจะขัดต่อระเบียบองค์การการค้าโลก  อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมศุลฯ จะต้องมีการหารือเพื่อสรุปแนวทางการแยกแยะสินค้าและวิธีจัดเก็บให้ จากนั้นจะใช้ได้โดยมีการออกประกาศกระทรวงการคลัง ภายในครึ่งปีหลังนี้


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ในส่วนของกรมศุลฯจะเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้จัดเก็บให้ ส่วนนโยบายการจัดเก็บว่าจะเก็บสินค้าแบบไหน ปริมาณเท่าไรจะต้องรอ สศค.และกรมสรรพากรในการศึกษาอีกครั้ง โดยกรมศุลฯก็มีความพร้อมในการปฏิบัติตาม ส่วนอากรขาเข้ายืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกัน หากเป็นสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาทยังได้รับการยกเว้นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง