ข่าวพาณิชย์ผลักดันผ้าไหมไทย - kachon.com

พาณิชย์ผลักดันผ้าไหมไทย
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายวุฒิไกร  ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเดินหน้าพัฒนาเส้นทางสายไหมสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ตามยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยได้วางกลยุทธ์การพัฒนาผู้ประกอบการผ้าไหมของไทย 3 ภูมิภาค และมอบหมายให้นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.อุดรธานี จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น 2) ภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และ 3) ภาคเหนือ ได้แก่ จ.แพร่ จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่
 
สำหรับแนวทางการดำเนิน เช่น  การยกระดับผู้ประกอบการผ้าไหมของไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในเชิงธุรกิจ เชื่อมโยงเครือข่ายและการตลาดขนานไปตามเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการผลิต เทคนิคเฉพาะ และอัตลักษณ์ผ้าไหมของแต่ละชุมชนเพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความสวยงามและทนทาน รวมถึง หัวใจหลักของการพัฒนาต่อยอด คือ การนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการพัฒนาผ้าไหมของไทยให้มีความหลากหลาย ทันสมัย และดูแลรักษาง่าย ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับผ้าไหมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี
 
 “การพัฒนาผู้ประกอบการผ้าไหม จะเริ่มจากการอบรมบ่มเพาะเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ การค้าและการตลาด สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้จัดหา นักออกแบบ และผู้ซื้อ รวมทั้ง จัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ผ้าไหมไทยเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติ/สร้างความภาคภูมิใจเมื่อได้สวมใส่หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหม ทั้งนี้ ผ้าไหมไทย ได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศที่มีความสวยงาม มีความอ่อนนุ่ม เส้นไหมมีความเลื่อมเงางามโดยธรรมชาติ ใส่แล้วภูมิฐาน นอกจากนี้ คุณสมบัติพิเศษของผ้าไหม เมื่ออากาศร้อน...ผ้าไหมจะช่วยคลายร้อน และเมื่ออากาศหนาว...ผ้าไหมบางๆ กลับช่วยให้อุ่นสบาย ซึ่งจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของผ้าไหมไทย นำมาซึ่งความภาคภูมิใจเมื่อสวมใส่หรือใช้งาน ทำให้เกิดการเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นผ่านลวดลายอันวิจิตรบรรจงบนผืนผ้าไหมที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่ควรได้รับการส่งเสริมและเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศไทย”