ดอลลาร์แข็งกดทองคำปรับราคาลง 50 บาท
เศรษฐกิจ
รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำในประเทศปรับลง 50 บาท เป็นผลมาจากราคาต่างประเทศปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงเปิดตลาดอยู่ที่ 1,281 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 31.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ทองแท่งรับซื้อบาทละ 19,200 บาท ขายออกบาทละ19,300 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,859.04 บาท และขายออกบาทละ 19,800 บาท
รายงานข่าวจากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแจ้งว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลัง Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร จากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลอิตาลีอาจถูกสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับเป็นเงินถึง 3 พันล้านยูโรฐานละเมิดกฎเกณฑ์ด้านการคลังของสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ผลการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปยังบ่งชี้ว่าพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด (far-right) และพรรคที่มีแนวคิดชาตินิยม (nationalists) ต่างก็ได้รับชัยชนะทั้งในอิตาลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศสและโปแลนด์ แม้ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุนการรวมตัวกันของ EU จะยังคงรักษาเสียงข้างมากไว้ได้ก็ตาม ซึ่งแสดงถึงการแบ่งขั้วในรัฐสภายุโรปที่ชัดเจนมากขึ้นจนกดดันสกุลเงินยูโร
ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,275.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นบ้างโดยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของสินทรัพย์เสี่ยงจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -1.47 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จาก เฟดริชมอนด์