ข่าวไทยประเดิมหนังสือค้ำประกันผ่านบลอคเชนเจ้าแรกของโลก - kachon.com

ไทยประเดิมหนังสือค้ำประกันผ่านบลอคเชนเจ้าแรกของโลก
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ร่วมกับธนาคารพาณิชย์จัดตั้งบริษัท บีซีไอ(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ 22 แห่ง ภาคธุรกิจทั้งรัฐและเอกชน ได้ร่วมศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมผ่านบลอคเชน ซึ่งยังลดต้นทุนทางการเงินและสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย โดยได้ประเดิมกับหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบลอคเชน ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่ดำเนินการได้ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วเพียงใช้เวลาไม่กี่นาที จากเดิมรูปแบบกระดาษจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง และมีหลายกระบวนการกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 3 ปีนี้

สำหรับบลอคเชนเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งธุรกรรมการเงินและธุรกิจ โดยมีนักลงทุนเข้าลงทุนร่วมในกลุ่มสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับบลอคเชนถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.5 แสนล้านบาท และธปท.ก็ได้ร่วมกับพันธมิตรเริ่มใช้บลอคเชนในช่วงที่ผ่านมา เช่น การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนได้รับเงินจากพันธบัตรสะดวกขึ้น และมีต้นทุนถูก หรือจะเป็นโครงการอินทนนท์ที่เป็นการชำระเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ และกำลังจะขยายไปใช้กับธนาคารต่างประเทศ แต่ส่วนนี้ยังไม่ถูกใช้กับประชาชนเป็นวงกว้าง


นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานคณะกรรมการบีซีไอ กล่าวว่า ปัจจุบันบลอคเชนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีการนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งการร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในการจัดตั้งบีซีไอครั้งนี้ จะช่วยกันศึกษา พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างบริการที่ทันสมัยภายใต้การกำกับดูแลที่ดี ด้วยการเชื่อมต่อทุกธนาคารที่เข้าร่วมด้วยแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อพัฒนาและต่อยอดระบบให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและผลักดันเทคโนโลยีให้เข้าถึงทุกกลุ่มธุรกิจ เสริมประสิทธิภาพทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้งานหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์บนบลอคเชนเป็น 50% ของหนังสือค้ำประกันทั้งประเทศภายใน 3 ปี


นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงรีอยุธยา กล่าวว่า ในปัจจุบันมีคำขอหนังสือค้ำประกันถึง 500,000 ฉบับต่อปี เป็นมูลค่าหนังสือค้ำประกันผ่านระบบสถาบันการเงินไทยทั้งภาครัฐบและเอกชนกว่า 1.35 ล้านล้านบาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จึงมองว่าหากใช้เทคโนโลยีบลอคเชนกับหนังสือค้ำประกันจะทำให้เพิ่มความสะดวก ไม่ต้องใช้กระดาษ และลดต้นทุนได้อีกด้วย