ไทยประเดิมหนังสือค้ำประกันผ่านบลอคเชนเจ้าแรกของโลก
เศรษฐกิจ
สำหรับบลอคเชนเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งธุรกรรมการเงินและธุรกิจ โดยมีนักลงทุนเข้าลงทุนร่วมในกลุ่มสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับบลอคเชนถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.5 แสนล้านบาท และธปท.ก็ได้ร่วมกับพันธมิตรเริ่มใช้บลอคเชนในช่วงที่ผ่านมา เช่น การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนได้รับเงินจากพันธบัตรสะดวกขึ้น และมีต้นทุนถูก หรือจะเป็นโครงการอินทนนท์ที่เป็นการชำระเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ และกำลังจะขยายไปใช้กับธนาคารต่างประเทศ แต่ส่วนนี้ยังไม่ถูกใช้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานคณะกรรมการบีซีไอ กล่าวว่า ปัจจุบันบลอคเชนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีการนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งการร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในการจัดตั้งบีซีไอครั้งนี้ จะช่วยกันศึกษา พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างบริการที่ทันสมัยภายใต้การกำกับดูแลที่ดี ด้วยการเชื่อมต่อทุกธนาคารที่เข้าร่วมด้วยแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อพัฒนาและต่อยอดระบบให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและผลักดันเทคโนโลยีให้เข้าถึงทุกกลุ่มธุรกิจ เสริมประสิทธิภาพทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้งานหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์บนบลอคเชนเป็น 50% ของหนังสือค้ำประกันทั้งประเทศภายใน 3 ปี
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงรีอยุธยา กล่าวว่า ในปัจจุบันมีคำขอหนังสือค้ำประกันถึง 500,000 ฉบับต่อปี เป็นมูลค่าหนังสือค้ำประกันผ่านระบบสถาบันการเงินไทยทั้งภาครัฐบและเอกชนกว่า 1.35 ล้านล้านบาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จึงมองว่าหากใช้เทคโนโลยีบลอคเชนกับหนังสือค้ำประกันจะทำให้เพิ่มความสะดวก ไม่ต้องใช้กระดาษ และลดต้นทุนได้อีกด้วย