นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็
นประธานการประชุมคณะศึกษาดู
งานด้านความปลอดภัยทางถนน ชุดที่ 3 ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่
วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทางหลวง และผู้ประสานงานไทย - ญี่ปุ่น ว่า คณะศึกษาดูงานฯ ชุดที่ 3 ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายที่จะเดิ
นทางไปดูงานด้านความปลอดภั
ยทางถนนที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2 – 9 มิ.ย. 62 หลังจากที่ไทยได้ส่งคณะศึกษาดู
งานไปดูงานที่ญี่ปุ่น 2 ชุดแล้ว เพื่อศึกษาตัวอย่างความสำเร็
จของประเทศญี่ปุ่นในเรื่องต่าง ๆ อาทิ การตรวจสอบความปลอดภัย (Safety Audit) การปรับปรุงจุดเสี่ยงต่าง ๆ มาตรการความปลอดภัยสำหรับรถจั
กรยานยนต์ การทดสอบการใช้ระบบเบรก ABS กับรถจักรยานยนต์ การบริหารจัดการเมื่อเกิดอุบัติ
เหตุทางถนน การซ่อมบำรุงเส้นทาง มาตรฐานความปลอดภัยบนทางด่วน จุดพักรถ มาตรฐานความปลอดภัยบริเวณจุดตั
ดทางรถไฟ ความเข้มงวดของกฎหมายจราจร และการออกใบอนุญาตขับรถประเภทต่
าง ๆ เป็นต้น เพื่อนำองค์ความรู้มาปรับใช้ให้
เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
นายอาคม กล่าวต่อว่า ในการไปศึกษาดูงานครั้งนี้ได้ย้ำ
ให้ทุกคนตั้งใจรับความรู้ ตั้งข้อสังเกตและซักถามข้อมู
ลให้มากที่สุด พร้อมถอดบทเรียนจากคณะศึกษาดู
งานฯ ชุดที่ผ่านมาว่ามีประเด็นใดที่
ต้องเพิ่มเติม เพื่อนำมาปรับใช้ในการสร้
างความปลอดภั
ยทางถนนของประเทศไทย รวมถึงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิ
จารณาต่ออายุบันทึกความร่วมมื
อด้านความปลอดภัยทางถนน (MOC on Road Safety) ระหว่างกระทรวงคมนาคม ประเทศไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่
น (MLIT) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้เกิดความในการทำงานด้
านความปลอดภัยทางถนนและความร่
วมมือระหว่างสองประเทศอย่างต่
อเนื่องต่อไป
นายอาคม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนได้ทั้งสั่งการให้
กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เข้มงวดการตรวจสภาพรถให้เป็
นไปตามมาตรฐาน และตรวจสอบการทำงานของสถานตรวจส
ภาพรถเอกชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ดูแลทางเดินเท้า ทางม้าลาย เกาะกลางถนน ที่อยู่ในความดูแลทั่วประเทศให้
อยู่ในสภาพดี สะดวกต่อการใช้งานของประชาชน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี