ธปท.ลุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสองโต แต่รัฐต้องประคองบริโภค-ลงทุนให้ดี
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-05-31 14:57:00
16
Webmaster
2019-05-31 14:57:00
16
-
สนับสนุนเนื่อหา
น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 มีโอกาสขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาสแรก หลังจากส่งออกเริ่มติดลบน้อยลง ขณะที่การบริโภคภายในประเทศ ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดบปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม คือ มาตรการกีดกันทางการค้าสหรัฐ และจีน ที่จะต้องนำมาประเมินก่อนการตัดสินใจปรับตัวเลขเศรษฐกิจในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนมิ.ย.62
“สิ่งสำคัญ คือ การประคับประคองเศรษฐกิจที่จะต้องเน้นการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุนภายในประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาสสองจะขยายตัวต่อเนื่องได้จากไตรมาสแรก แต่ยังคงต้องติดตาม ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าในช่วงเดือนนี้ด้วยว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ”
ส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนเม.ย.62ยังขยายตัวจากเดือนมี.ค. ตามการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตในทุกหมวดสินค้า ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อยตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ด้านการส่งออกติดลบ 2.9% เนื่องจากตลาดโลกชะลอลงตามเศรษฐกิจคู่ค้าจากผลมาตรการกีดกันทางการค้าสหรัฐกับจีน นอกจากนี้ยังเป็นผลจากอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชะลอตัวลงด้วย โดยสินค้าที่ชะลอตัวมาก เช่น หมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ แผงวงจรรวม และโทรศัพท์มือถือ หมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการนำเข้าหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวจากการนำเข้าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งทอ
“สิ่งสำคัญ คือ การประคับประคองเศรษฐกิจที่จะต้องเน้นการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุนภายในประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาสสองจะขยายตัวต่อเนื่องได้จากไตรมาสแรก แต่ยังคงต้องติดตาม ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าในช่วงเดือนนี้ด้วยว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ”
ส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนเม.ย.62ยังขยายตัวจากเดือนมี.ค. ตามการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตในทุกหมวดสินค้า ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อยตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ด้านการส่งออกติดลบ 2.9% เนื่องจากตลาดโลกชะลอลงตามเศรษฐกิจคู่ค้าจากผลมาตรการกีดกันทางการค้าสหรัฐกับจีน นอกจากนี้ยังเป็นผลจากอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชะลอตัวลงด้วย โดยสินค้าที่ชะลอตัวมาก เช่น หมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ แผงวงจรรวม และโทรศัพท์มือถือ หมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการนำเข้าหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวจากการนำเข้าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งทอ
