กนอ.ยังมั่นใจยอดขายที่ดินนิคมฯโตตามเป้า
เศรษฐกิจ
3.นิคมฯปิ่นทอง(โครงการ4) 4.นิคมฯยามาโตะอินดัสทรีส์5.นิคมฯหนองคาย6.นิคมฯสงขลารวมพื้นที่เพื่อขาย/เช่าประมาณ109,884 ไร่โดยปัจจุบันมีพื้นที่ขาย/เช่าแล้วทั้งสิ้น90,222 ไร่และพื้นที่คงเหลือ สำหรับ ขาย/ให้เช่าประมาณ19,662 ไร่ก่อให้เกิดเม็ดเงินการลงทุนในนิคมฯสะสมรวมอยู่ที่3.8 ล้านล้านบาทมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้น479,583 คน
ทั้งนี้จากนโยบายการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีของรัฐบาลที่มุ่งหวังให้เป็นพื้นที่ในการรองรับการลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์4.0 ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวในปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุดระยะที่3 (ช่วงที่1) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินส่งผลทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นขยายการลงทุนมาในนิคมฯเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามจะเห็นจากผลการดำเนินงานของกนอ.ในรอบ6 เดือน(ต.ค.61-มี.ค.62) ที่ผ่านมามียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมฯอยู่ที่1,339 ไร่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(ต.ค.60-มี.ค.61) จำนวน525 ไร่หรือคิดเป็น5.25% มูลค่าลงทุนรวม8,593 ล้านบาทโดยในจำนวนดังกล่าวเป็นพื้นที่นิคมฯในEEC ถึง1,328 ไร่นิคมฯนอกพื้นที่อีอีซีจำนวน11 ไร่และก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มอีกประมาณ1,585 คน
“การที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซีไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุดระยะที่3 (ช่วงที่1) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินและโครงการอื่นๆเป็นต้นซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรมรวมทั้งมาตรการต่างๆที่รัฐมุ่งส่งเสริมการลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายตลอดจนยังมีปัจจัยจากต่างประเทศที่หนุนการลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนจีนเข้าไทยมากขึ้นจากกรณีที่สหรัฐฯได้ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในรอบ2 ทำให้สงครามการค้ามีความรุนแรงมากขึ้นเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนจีนตัดสินใจที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศเร็วขึ้นซึ่งไทยถือเป็นประเทศเป้าหมายและเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีให้ยอดขายและเช่าที่ดินทั้งปีของกนอ.เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่3,500 ไร่”