สงครามการค้า-การเมืองในประเทศฉุดเชื่อมันนักลงทุน
เศรษฐกิจ
“การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะเป็นผลบวกต่อการลงทุนและผลไม่หนีจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่จะได้นายกรัฐมนตรีหน้าตาเดิม เพราะทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อว่าจะจัดตั้งผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐสามารถรวมเสียงคะแนนได้เกินครึ่งแล้ว ซึ่งจะทำให้ครึ่งหลังของปี กระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 10,000 ล้านบาท แต่ก็ขึ้นกับการบริหารเสียงในสภาของรัฐบาลด้วยว่าจะบริหารเสียงที่มีอยู่ 254 เสียง ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสำคัญได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจไทยและการส่งออกชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดแรงขับเคลื่อนต่อไป รวมทั้งสานต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวถึงกรณีที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณจะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายลง ประกอบกับการเมืองไทยมีความชัดเจน ทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยจำนวนมาก สะท้อนจากเดือน พ.ค.62 ที่ยอดขายสุทธิ 50,000 ล้านบาท เหลือขายสุทธิ 26,000 ล้านบาท ณ วันที่ 5 มิ.ย.62