"ออมสิน"เผยไตรมาสแรกปี62 กำไรสุทธิกว่า6พันล้านบาท
เศรษฐกิจ
สำหรับสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ช่วง 3 เดือนแรก กว่า 135,000 ล้านบาทเป็นการให้สินเชื่อที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ได้แก่ สินเชื่อแก่ภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงิน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะ สินเชื่อธุรกิจ SMEs และสินเชื่อแก่ลูกค้าฐานรากและนโยบายรัฐ ด้านเงินฝาก ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 2,297,844 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 ในระบบสถาบันการเงิน
โดยธนาคารมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่น่าสนใจเพื่อส่งเสริมการออมอย่างต่อเนื่อง ทั้งเงินฝากสลากออมสินพิเศษ สลากออมสินดิจิทัล และเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ธนาคารฯ มีสินทรัพย์รวม 2,704,645 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ เน้นปล่อยสินเชื่ออย่างรัดกุม และปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการหนี้แบบบูรณาการ โดยหลังจากเปิดศูนย์ย่อยควบคุมและบริหารหนี้จำนวน 80 ศูนย์ทั่วประเทศ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพียงร้อยละ 2.83 ของสินเชื่อรวม ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบสถาบันการเงิน ขณะที่ในไตรมาสแรก ปี 2562 ธนาคารฯ นำส่งรายได้เข้ารัฐแล้ว 7,268 ล้านบาท (ปี 2561 นำส่งรายได้เข้ารัฐ 20,054 ล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 4)
นอกจากนี้ธนาคารออมสินได้มีบทบาทในการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน สนับสนุนให้มีการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วน Electronic Transaction กว่า 80% และยอดผู้ใช้บริการ Mobile Banking กว่า 5.5 ล้านราย
ดร.ชาติชาย กล่าวต่อว่า แผนงานในช่วงครึ่งหลังปี62 วางแผนขับเคลื่อนสู่ธนาคารในยุคดิจิทัล ด้วยค่านิยมองค์กร “GSB WAY 2019 : Drive Success with Highest Performance Delivered” เพื่อขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จแบบไม่หยุดยั้ง พร้อมดูแลลูกค้ามากกว่าใคร ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าฐานรากและนโยบายรัฐ โดยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการใช้บริการและทำธุรกรรมกับธนาคารออมสิน (Customer Journey) ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 Banking ประกอบด้วย Traditional Banking ที่ให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านสาขาธนาคารในรูปแบบปกติ โดยมีแผนปรับปรุงสำนักงานสาขาและรูปแบบการให้บริการให้มีความทันสมัย เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น มีการจัดแบ่งพื้นที่ให้บริการเป็น 3 โซน แบบ One Stop Service
ประกอบด้วย Customer Care (รวมเคาน์เตอร์ Teller ที่ให้บริการด้านเงินฝากและบริการทางการเงิน) Advisory Care (รวมเคาน์เตอร์สินเชื่อ ประกัน บัตรเครดิต และการลงทุนไว้ด้วยกัน) และ Digi Thai Life Solution by GSB (บริการครบวงจรผ่านเครื่อง Self Service : VTM, ATM, ADM และ Passbook Update) โดยมีพนักงาน GSB Care ช่วยวิเคราะห์ความต้องการลูกค้าและให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้น บริหารจัดการคิวรับบริการ พร้อมชักชวนให้ลูกค้าใช้บริการผ่านเครื่อง Self Service เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้บริการที่ทันสมัยและสะดวกรวดเร็ว ล่าสุดธนาคาร ได้เปิดให้บริการ GSB Queue Application ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจองคิวออนไลน์จากที่บ้าน เพื่อนัดหมายมาใช้บริการที่สาขาล่วงหน้าได้ถึง 5 วัน หรือการสแกน QR Code จองคิวผ่านเครื่องที่สาขาแทนการกดบัตรคิว ซึ่งมีบริการแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อใกล้ถึงคิวรับบริการ
ด้าน Digital Banking ที่พร้อมให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา จะพัฒนาให้มีบริการที่รวดเร็วและทันสมัย พร้อมสร้างความสะดวกสบายบน Digital Platform ใหม่ๆ บน MyMo เพื่อตอบสนองความต้องการใช้บริการทางการเงินในทุกช่วงชีวิตของลูกค้า (MyMo My Life) ทั้งบริการด้านการออม การลงทุน การประกันชีวิต/ประกันภัย และการขอสินเชื่อ ล่าสุดธนาคารฯ ได้เปิดให้บริการสลากดิจิทัลอายุ 1 ปี หน่วยละ 20 บาท ปรากฏว่ายอดจำหน่าย 10 วัน มีผู้สนใจซื้อสลากดิจิทัลจำนวน 79,794 ราย คิดเป็นยอดเงินฝากกว่า 2,500 ล้านบาท และบริการ GSB Money โดยทุกธุรกรรมที่ใช้บริการกับธนาคารออมสิน จะสามารถสะสมแต้ม/คะแนน เพื่อแลกของรางวัล ส่วนลด และสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ บัตรชมคอนเสิร์ตและกีฬา แบบ Exclusive เป็น Loyalty Program ที่ตอบสนอง Lifestyle ในการใช้ชีวิตของลูกค้า เป็นรูปแบบการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ทุกธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าผ่าน MyMo มีค่ามากขึ้น
นอกจากนี้เมื่อลูกค้าสะสม GSB Point หรือ GSB Money ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับสิทธิ์ในการยกระดับ User Class เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกมากมาย ภายใต้หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดบันเทิง หมวดท่องเที่ยว หมวดสุขภาพ และบริการพิเศษจากธนาคารออมสิน
“สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ของธนาคาร ทั้ง Music Strategy และ Sport Strategy ที่ได้เปิดตัวไปบ้างแล้วถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในการสื่อสารและสร้างแบรนด์ รวมทั้งการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม สามารถกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ และสร้างการรับรู้ข้อมูลที่ธนาคารต้องการจะสื่อในมุมมองต่างๆ ออกไปได้”
ภารกิจอีกด้านที่สำคัญคือการเป็น Social Banking เพื่อตอบแทนคืนสู่สังคม ผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความรู้และศักยภาพ สร้างความเข้มแข็งแก่ประชาชนฐานราก และยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับกลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และชุมชน ให้เกิดความยั่งยืนแก่สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการผ่าน Social Branch ซึ่งจะปรับบทบาทสาขานอกจากจะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการทางการเงินแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาชุมชนทั้งการแก้ไขหนี้นอกระบบ การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน การพัฒนาอาชีพ และการกระจายสินค้าชุมชน ซึ่งเป็นไปตามกลไก 3 สร้าง ในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก คือ การสร้างความรู้/อาชีพ สร้างตลาด/รายได้ และสร้างประวัติทางการเงิน ผ่านโครงการที่สำคัญ อาทิ โครงการ GSB Smart Homestay
ล่าสุดได้ร่วมกับ Airbnb เพื่อยกระดับผู้ประกอบการโฮมสเตย์ไทย เพื่อพัฒนาการตลาดท่องเที่ยววิถีชุมชน ผ่าน Platform ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และโครงการ GSB Street Food เปลี่ยนชีวิต ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้สตรีทฟู้ดรายการแรกของไทย เพื่อเฟ้นหาร้านค้าริมทางเท้าที่มีความโดดเด่นภายใต้ “4D Street Food Upgrade” ประกอบด้วย D Food, D Innovation, D Design และ D Marketing โดยร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันอาหาร และสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) หรือ CEA ที่จะเข้ามาช่วยเสริมความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการร้านอาหารริมทางให้มีมาตรฐานและเป็นที่รู้จัก
ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้ ธนาคารฯจะเปิดตัวศูนย์วิจัย GSB Research Center ซึ่งจะให้บริการด้านข้อมูล/ข่าวสาร และผลงานวิจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนานวัตกรรมและการให้บริการของธนาคารในยุคดิจทัล โดยธนาคารฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้มีผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตร รวมถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งการันตีจากการยกย่องและได้รับมอบรางวัลต่างๆ มากมาย
รางวัลล่าสุดที่เพิ่งได้รับ คือ รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านลูกค้า ประจำปี 2561 (Thailand Quality Class Plus : Customer หรือ TQC+ Customer) จากสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นเลิศในการบริหารจัดการขององค์กร ที่ทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก ซึ่งเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศที่ได้รับรางวัลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและภาคภูมิใจสำหรับผู้บริหารและพนักงานทุกคน ที่จะทำให้เกิดความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรไปข้างหน้าตามวิถีแห่งออมสิน หรือ GSB Way 2019 : Drive Success with Highest Performance Delivered”
“เราจะขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จแบบไม่หยุดยั้ง” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในที่สุด.